ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นทั้งอาหารหลักของคนในประเทศ และยังมีสัดส่วนการส่งออกเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมด แต่ก็เต็มไปด้วยค วามผันผวนที่ควบคุมไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างภัยแล้งหรือน้ำท่วม หรือสภาพเศรษฐกิจ และยิ่งในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โรคระบาดก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจข้าวทั้งห่วงโซ่ โดยเฉพาะธุรกิจโรงสีที่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานจนทำให้การผลิตไม่ต่อเนื่อง เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้และยังสามารถสร้างมาตรฐานท่ามกลางความไม่แน่นอน ระบบ Automation อย่าง “เครื่องบรรจุถุง” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน และยังเป็นการพัฒนาโรงสีให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย
แนวโน้มตลาดข้าวไทย เติบโตมากน้อยแค่ไหนในยุค New Normal?
จากสถานการณ์ในปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจข้าวต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการส่งออกที่ชะลอตัวอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และการแข่งขันด้านราคาข้าวในตลาดโลก ทำให้โรงสีต้องเผชิญปัญหาดังต่อไปนี้
- ปัญหาข้าวส่วนเกินที่ยังคงคั่งค้างอยู่ในระบบ ทำให้ข้าวเหล่านั้นยิ่งเก่า เสื่อมคุณภาพ และราคาตก
- ผลผลิตข้าวใหม่ขาดสภาพคล่อง อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ทำให้ทั้งชาวนาและผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับข้าวยังมีรายได้ที่เติบโตได้จำกัด
- การไม่พัฒนาคุณภาพของการปลูกข้าวและกระบวนการต่าง ๆ ในโรงสี เช่น ยังไม่มีเครื่องบรรจุถุงที่เพียงพอ ทำให้แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้น้อยลง
- การขาดแรงงาน อันเนื่องมาจากการควบคุมแรงงานต่างชาติและการจำกัดการเดินทาง ทำให้กระบวนการสีข้าวและบรรจุถุงส่งจำหน่ายเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่องและยากต่อการวางแผนในขั้นตอนต่อ ๆ ไป
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 นี้ ผู้ประกอบการต่างก็เรียนรู้และปรับตัว และหันมาขายข้าวป้อนตลาดในประเทศมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มของผู้บริโภคจำนวนมากที่หันมาทำอาหารรับประทานเอง เพราะใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยกันมากขึ้น ทั้งยังมีเรื่องของการทำงานที่บ้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ธุรกิจโรงสีและธุรกิจค้าข้าวจึงค่อย ๆ ฟื้นตัว และเป็นโอกาสอันดีที่โรงสีขนาดกลางจะเริ่มมองหาโอกาสในการพัฒนามาตรฐานเพื่อให้พร้อมต่อการแข่งขันในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงขั้นตอนต่าง ๆ ให้สะอาดและตรวจสอบได้มากขึ้น ไปจนถึงการเพิ่มขีดจำกัดในการบรรจุข้าวด้วยเครื่องแพ็คถุงอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังจะสามารถช่วยลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานในอนาคต หากต้องเจอกับสถานการณ์อย่างเช่นในปัจจุบัน
พลิกวิกฤติเป็นโอกาสท่ามกลางความผันผวน
โดยปกติแล้ว ในกระบวนการบรรจุข้าวสำหรับโรงสีที่ไม่มีเครื่องบรรจุถุงนั้น จำเป็นจะต้องใช้แรงงานคนอย่างน้อย 5 คนในการตักข้าวใส่ถุงและจัดเรียงเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการขนส่ง ยังไม่รวมเรื่องความช้าเร็วในการเปิดถุง ปริมาณข้าวที่อาจตักได้ไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง จึงเกิดปัญหาเรื่องการควบคุมปริมาณการผลิตที่เป็นไปอย่างไม่เที่ยงตรงและเรื่องการขาดแรงงานในกรณีที่มีคนงานลาหยุด รวมไปถึงความระมัดระวังที่มีมากขึ้นหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 เกี่ยวกับการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากแรงงานที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกโรงสีก่อนจะมาปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเผชิญกับปัญหา แต่ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสอันดีที่เจ้าของโรงสีและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตข้าวจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยใช้ระบบ Automation เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจให้เกิดความราบรื่นและส่งผลดีในระยะยาว เช่น เครื่องแพ็คถุงอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในหลาย ๆ โรงสี ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แม้จะเป็นโรงสีขนาดกลางก็ยังก้าวไปสู่มาตรฐานด้านความสะอาดและปริมาณการผลิตที่ควบคุมได้ไม่แพ้โรงสีขนาดใหญ่ และพร้อมสำหรับก้าวต่อไปของตลาดการส่งออกที่กำลังจะฟื้นตัวกลับมาในอนาคต
เถ้าแก่โรงสีมั่นใจได้ ด้วย “เครื่องบรรจุถุง” แบบ Automation สนามค้าข้าวไหนก็ไม่หวั่น!
หากเถ้าแก่โรงสีคนไหนต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ควบคุมเวลาและปริมาณได้มากขึ้น ลดความไม่แน่นอนจากปัจจัยที่คาดการณ์ไม่ได้ และยกระดับมาตรฐานของโรงสีในราคาที่คุ้มค่า จับต้องได้ เครื่องบรรจุถุงรุ่น OML-1060 คือโซลูชันที่เราอยากแนะนำเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด
ปัญหาที่โรงสีขนาดกลางเผชิญในปัจจุบัน
- คนงานไม่พอเนื่องจากลาพักหรือเดินทางกลับภูมิลำเนาถาวรจนทำให้กระบวนการบรรจุข้าวในโรงสีล่าช้า
- คนงานไม่พอเนื่องจากลาพักหรือเดินทางกลับภูมิลำเนาถาวรจนทำให้กระบวนการบรรจุข้าวในโรงสีล่าช้า
- ไม่สามารถควบคุมความสะอาดได้ และอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคหากไม่มีการจัดการที่ดีพอ
- ความสามารถในการแข่งขันกับโรงสีขนาดใหญ่หรือประเทศเพื่อนบ้านยังน้อย
เครื่องบรรจุถุง OML-1060 ช่วยได้อย่างไร?
- ลดจำนวนคนงานจาก 5 คนในการเปิดถุง ตักข้าว ไปจนเสร็จสิ้นการบรรจุเหลือเพียง 1 คนที่ทำหน้าที่วางกระสอบเปล่า
- สามารถกำหนดจำนวนที่ต้องการบรรจุได้แน่นอนในแต่ละครั้ง และดำเนินการได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องมีเวลาพัก ทำให้วางแผนในขั้นต่อไป หรือนัดหมายรถขนส่งได้แน่นอน
- การใช้เครื่องแพ็คถุงอัตโนมัติสามารถควบคุมการปนเปื้อนสิ่งสกปรกและเชื้อโรคจากภายนอกได้ดีกว่า
- ช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานทัดเทียมกับโรงสีขนาดใหญ่
และนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ข้างต้นได้แล้ว เครื่องบรรจุถุงรุ่น OML-1060 ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง เพราะรองรับทั้งถุงกระสอบแบบจีบข้างและแบบปากเปิดทรงหมอน สามารถตั้งค่าเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะกับถุงได้หลากหลายขนาด อีกทั้งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโรงสีที่เริ่มต้นเปลี่ยนมาใช้ระบบ Automation เพราะมีขนาดเครื่องกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่เดิมในโรงงาน สามารถนำไปต่อกับหัวสเกลเดิมของเครื่องจักรแบรนด์ Chronosได้ จึงไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ยกชุด
เครื่องบรรจุถุง OML-1060 มีขั้นตอนการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีการบริการหลังการขายและการบำรุงรักษาเครื่องอย่างเต็มที่และใกล้ชิดโดยทีมงานจาก Premier Tech ที่ประจำอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานทุกคนหมดกังวลและสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางเอาไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
